เรื่องเล่าหลอน ผีโรงละคร ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องลึกลับที่หนูกับเพื่อนๆเจอกันมานี้ เกิดขึ้นเมื่อตอนหนูเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่โรงเรียนประจำจังหวัดตอนนั้นทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้น โดยจัดการแสดงละครของนักเรียนและได้เช่าสถานที่โรงละครแห่งหนึ่งสำหรับเป็นเวทีการแสดง ตอนช่วงซ้อมพวกหนูซ้อมกันที่หอประชุมของโรงเรียนแต่พอใกล้จะถึงวันเปิดทำการแสดงจริง ครูก็ให้หนูไปซ้อมใหญ่ที่โรงละครที่เราจะใช้เปิดทำการแสดงจริง และวันที่เราไปซ้อมใหญ่นี่แหละค่ะที่หนูได้พบกับสิ่งที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต
บริเวณเวทีการแสดงของโรงละครแห่งนี้ก็คล้ายๆกับโรงละครทั่วๆไปคือเวทีใหญ่ประดับไฟแสงสีสวยงามมีม่านเป็นชั้นๆประมาณ 3ชั้น สามารถรูดเปิดปิดได้หากต้องการใช้เป็นฉากในการแสดงและหากเวลาที่รูดม่านเปิดทั้งหมดทั้งสามชั้นผ้าม่านจะถูกรูดเลื่อนไปรวมกันอยู่ด้านข้างเวที วันที่พวกหนูไปซ้อมกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้รูดม่านเปิดทั้งสามชั้นและขณะที่เรากำลังซ้อมละครกันอยู่ หนูได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งชุดนางละครครบเครื่องใบหน้าสวยหวาน เครื่องประดับประดาสวยงามมากกำลังยืนมองพวกหนูทำการซ้อมอยู่ริมเวทีโดยยืนอยู่ระหว่างผ้าม่านชั้นนอกและชั้นกลาง ตอนแรกหนูก็คิดว่าอาจเป็นพวกนักแสดงจากเวทีอื่นมาทำการซ้อมใหญ่ พร้อมกับแต่งตัวครบเครื่องเหมือนวันแสดงจริง เพราะที่โรงละครแห่งนี้มีอยู่หลายโรงในบริเวณเดียวกันมีทั้งโรงเล็กโรงใหญ่ส่วนของหนูนั้นเป็นเพียงโรงเล็กๆเท่านั้น
ผู้หญิงคนนั้นยืนดูพวกหนูซ้อมกันอยู่นาน แต่ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร หนูก็เลยไม่รู้ว่าเธอเดินออกไปตอนไหนพอช่วงพักหนูก็เลยถามเพื่อนๆ ว่ามีใครเห็นอย่างที่หนูเห็นบ้างหรือเปล่า ปรากฏว่าเพื่อนๆ หลายคนไม่เห็นแต่เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของหนูชื่อนันทาบอกว่าเห็นผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันแต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันก็คือนันทาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าน่ากลัวมากไม่ได้สวยอย่างที่หนูเห็นแม้แต่นิดเดียว นันทาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นลักษณะการแต่งกายเหมือนกับที่หนูเห็นทุกอย่าง ใบหน้าของเธอดูเขียวคล้ำเหมือนกับคนป่วยแต่นัยน์ตาของเธอกลับแข็งกร้าวคล้ายกับคนกำลังโกรธจัดเพราะอะไรบางอย่างขณะที่จ้องนันทา หนูเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อได้ยินสิ่งที่นันทาเล่าให้ฟังเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยังฝืนใจซ้อมละครต่อจนกระทั่งเสร็จสิ้นและช่วงระหว่างนั้นหญิงสาวที่หนูเห็นก็ไม่ได้ปรากฏให้เห็นอีก จนกระทั่งเวลาล่วงเข้าประมาณเกือบ 5 โมงเย็นการซ้อมเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย หนูกับนันทาจึงเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำจากนั้นก็นั่งหวีผมผัดหน้าที่ห้องแต่งตัวด้านหลังเวทีเพื่อเตรียมตัวกลับ
ในระหว่างที่หนูกลับนันทากำลังส่องกระจกอยู่ในห้องแต่งตัวนั้นหนูก็ได้เห็นหญิงสาวคนเดิมปรากฏให้เห็นในกระจก เธอยืนอยู่ด้านหลังหนูแต่คราวนี้ใบหน้าของเธอกลับไม่ได้สวยงามเหมือนกับที่หนูเห็นครั้งแรก เพราะใบหน้าที่เห็นในกระจกนั้นมันต้องไม่ใช่ใบหน้าของคนธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะหน้าเธอเขียวซีด เขียวแบบคนไม่มีเลือด แต่ตาทั้งสองข้างของเธอกลับแดงก่ำ และจ้องมองแข็งกร้าวถมึงทึง หนูกรีดร้องออกมาสุดเสียง เช่นเดียวกับนันทาก็กรีดร้องออกมาเช่นกันเสียงของเราทั้งคู่ทำให้เพื่อนเพื่อนที่อยู่ด้านนอกห้องแต่งตัวพากันวิ่งกรูเข้ามาหา ในขณะที่ภาพของหญิงคนนั้นก็หายวรรคไปต่อหน้าต่อตา หนูไม่รู้ว่าผีสาวที่หนูเห็นในโรงละครนั้นเป็นใครและทำไมถึงมาปรากฏหลอกหลอนหนูกับนันทาเพียงสองคนเท่านั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหนูและนันทาครูผู้สอนได้เตือนให้ไปจุดธูปบอกกล่าวกับวิญญาณเร้นลับพร้อมกับแนะนำให้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาเพราะเชื่อว่าหนูกับนันทาอาจจะกำลังวิเคราะห์ จึงได้พบเจอสิ่งเล่นรับที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ ขณะที่คนอื่นๆ เขาไม่เห็นกัน
ช่วงนั้นหนูกลับนันทาเพื่อนสนิทต่างก็ระมัดระวังตัวกันแจเลยพ่อแม่ก็พาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์รดน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล และวันที่แสดงจริงทางคณะครูก็จัดพิธีบวงสรวงกราบไหว้ครูบาอาจารย์ให้ช่วยปกปักษ์รักษาซึ่งการแสดงในครั้งนั้นก็สามารถผ่านพ้นไปด้วยดี จนทุกวันนี้หนูก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายกับสิ่งที่เห็น แต่แม้ว่าจะอธิบายไม่ได้หนูก็เชื่ออยู่ว่าสิ่งเล่นรับเหล่านี้มีอยู่จริง และคนที่ได้สัมผัสพบเจอด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะรู้ว่ามันน่ากลัวมากแค่ไหน