เรื่องเล่าหลอนจากทางบ้าน “เล่นกับผี”

เรื่องเล่าหลอนจากทางบ้าน “เล่นกับผี”

เรื่องเล่าหลอน เล่นกับผี หากเอ่ยถึง “วัดบางนาใน” หลายคนคงจะคิดว่าอยู่แถวบางนาง สมุทรปราการ แต่เปล่าหรอกครับ วัดนี้อยู่ในเขตจังหวัดนนท์ฯ อยู่ลึกเข้าไปในสวน ซึ่งหากไม่ใช่คนพื้นที่ก็มักจะเข้าไปกันไม่ถูก เมื่อก่อนนั้น ว่ากันว่าวัดนี้เป็นวัดที่ผีดุมาก เนื่องจากอยู่ห่างจากหมู่บ้านหรือเขตชุมชนและเรื่องราวที่ผมจะนำมาเสนอต่อไปนี้ก็เกิดขึ้นในวัดแห่งนี้เองครับ ตอนนั้นอยู่ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2524 ขณะนั้นวัดยังไม่เจริญเท่าที่ควร หน้าวัดยังเป็นที่รกเต็มไปด้วยหญ้าและสิ่งปรักหักพัง
ส่วนหลังวัดนั้นไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะฮวงซุ้ยที่เก็บศพนั้นวางระเกะระกะกันเต็มไปหมด บางศพก็มีญาติ บางศพญาติก็ล้มหายตายจากกันไป เลยไม่มีใครคอยดูแลในช่วงระหว่างนั้นเองผมได้ไปเป็นเด็กวัดรับใช้พระเณรอยู่ภายในวัดแห่งนี้ กุฎิที่ผมอาศัยอยู่กับพระอาจารย์ของผม อยู่ใกล้กับที่เก็บศพ…เรื่องกลัวผีผมเองก็ไม่เคยน้อยหน้าใคร แต่ที่ต้องทนอยู่ก็เพราะจำเป็นต้องทน แล้วผมก็ได้อยู่ที่วัดนี้จนกระทั่งเกิดเรื่องนี้แหละครับ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันทำให้ผมไม่กลับไปที่วัดอีกมันทำให้ผมจำฝังใจจริงๆ ตอนนั้นพระอาจารย์ที่ผมไปเป็นลูกศิษย์ท่านอายุยังไม่ถึง 30 เลย..แล้วท่านก็ชอบเล่นในสิ่งที่มันพิลึกๆ (ปัจจุบันลาสิขาบทไปแล้ว) วันดีคืนดีท่านมักจะหยิบเอาหัวกระโหลกผีในป่าช้าหลังวัดมาเล่น บางทีก็เอามาวางไว้หน้ากุฎิ หนักไปกว่านั้นเอามาวางไว้ในห้องที่ผมอยู่ก็มี
มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านเอาหัวกระโหลกผีที่ว่าไปวางไว้ในห้องของพระใหม่รูปหนึ่ง ต้องบอกเลยว่าพระใหม่ท่านกลัวผีเอามากๆ คืนนั้นประมาณตี1 ขณะที่ผมกำลังนั่งคุยกับพระอาจารย์อยู่ในห้อง ผมก็เห็นพระใหม่องค์ที่ว่านี้กำลังเดินลงมาจากห้องนอนของท่าน กุฎิของผมอยู่ชั้น2 ของพระใหม่อยู่ชั้น3 พอมาถึงหน้าห้องพระอาจารย์ผมท่านก็หยุดยืนอยู่จรงนั้นแต่ไม่ได้พูดอะไรและไม่แม้แต่จะยิ้มทักทายด้วยซ้ำ ผมรู้สึกแปลกๆ เพราะดูท่านตาขวางๆ ชอบกล หลังจากยืนอยู่ชั่วครู่ท่านก็เดินผ่านห้องพระอาจารย์ผมไป พระอาจารย์กับผมด้วยความสงสัยจึงเดินตามไปก็เห็นพระใหม่มุ่งหน้าไปทางที่เก็บศพซึ่งห่างจากกุฎิไปราว 30 เมตรท่ามกลางความืดและเงียบกลางดึกสงัดเช่นนั้น
ผมถึงกับตะลึงเพราะในวัดนี้ใครๆ ก็รู้ว่าพระใหม่รูปนี้เป็นคนที่กลัวผีเอามากๆ แต่ทำไมคืนนี้ถึงกล้าเดินไปโกดังเก็บศพ ผมและพระอาจารย์จึงร้องตะโกนถามไปว่า “ไปทำไม” แต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆ ออกจากปากของพระใหม่ หลังจากหายไปสักครู่ใหญ่ก็เห็นพระใหม่รูปนี้เดินออกมาจากฮวงซุ้ย เดินในลักษณะตัวแข็งทื่อ ตาขวาง พระอาจารย์ผมรู้ได้ทันทีว่าพระใหม่ถูกผีสิงอย่างแน่นอน แล้วพระใหม่ก็เดินตรงดิ่งมาที่พระอาจารย์ของผมด้วยลักษณะท่าทางที่เข้ามานั้นประสงค์ร้ายมาก ทั้งผมและพระอาจารย์ต่างก็ตกใจกลัวมากเพราะสายตาของพระใหม่ที่ท่านมองจ้องมายังพวกเรานั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัน พระอาจารย์จึงบอกให้ผมรีบไปปลุกหลวงพ่อเจ้าอาวาสให้มาช่วยดูเพื่อหาทางแก้ไข เพื่อขับไล่ผีออกจากร่างพระใหม่พอหลวงพ่อมาถึงท่านจึงเอาน้ำมนต์สาดเข้าใส่ร่างของพระใหม่ จากนั้นพระใหม่ก็ทรุดล้มลงทั้งยืนพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนน่าขนลุกขนพอง
สักครู่หนึ่งท่านก็ได้สติหลวงพ่อท่านจึงถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระใหม่องค์นั้นจึงบอกว่ามีผู้หญิงแก่ๆ พาเดินไปที่ป่าช้านั่นแล้วบอกให้เข้าไปทำร้ายอาจารย์ผมเพราะโกรธแค้นที่พระอาจารย์ผมชอบเล่นพิเรนด้วยการเอากระโหลกจากฮวงซุ้ยมาล้อเล่น จึงต้องการแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่อาขารย์ชอบล้อเล่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรเล่นเลย คืนนั้นทั้งคืน ทั้งผมและพระอาจารย์แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลย เพราะขณะที่กำลังจะเคลิ้มๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่นก็มักจะเห็นหญิงแก่คนหนึ่งอยู่ในชุดสีขาวหม่นๆ ใบหน้าน่ากลัวมากปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดเวลา จนต้องลุกขึ้นกรวดน้ำและสวดมนต์แผ่เมตตากันจนไม่ได้เป็นอับหลับนอน หลังจากนั้นมาพระอาจารย์กับผมก็ไม่กล้าเอากระโหลกผีมาเล่นอีกเลย ผมแกล้งลองถามท่านว่าไม่เอาอีกหรอ ท่านตอบว่า
“ไม่เอาแล้วเชื่อแล้วเข็ดจริงๆ”